วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานพื้นบ้าน ใช้อ้อยต่างแปลง

กาลนานมาแล้ว    ในสมัยที่โลกยังไม่มีแปรงสีฟันใช้นั้น    มีคหบดีผู้หนึ่งมีความรักใคร่เอ็นดูบุตรสาวของตนมาก    เพราะบุตรสาวของเขานั้นเป็นหญิงที่งามทั้งใบหน้า    และกริยาวันหนึ่งเห็นว่าบุตรสาวของตนชักจะมีขี้ฟันมากเกรอะกรังอยู่ไรฟันเต็มไปหมดเวลาพูดจาหรือเข้าใกล้ก็มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง  คหบดีผู้นั้นคิดว่าถ้าจะปล่อยให้สภาพการณ์เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่   นอกจากพวกหนุ่มๆที่เข้ามาติดตอมจะเอือมระอาแล้ว   ย่อมเป็นที่รังเกียจของสังคมด้วย  แต่ก็ไม่กล้าบอกบุตรสาวตรงๆเพราะเกรงบุตรสาวจะอับอายจึงได้หาอุบายโดยบอกให้บุตรสาวไปหาอ้อยมากินให้มากๆ    เพื่อผิวพรรณจะได้สวยงามยิ่งขึ้น    ซึ่งจริงๆแล้วอ้อยเหล่านั้นจะได้ช่วยแปรง    และแทะขี้ฟันให้หลุดไปได้
         เขาจึงได้ให้เงินลูกสาวเป็นจำนวนมาก    เพื่อให้ไปหาซื้ออ้อยที่สวนข้างๆบ้านมาไว้กินแต่ขณะที่บุตรสาวเดินไประหว่างทางยังไม่ทันถึงสวนอ้อย    เห็นพ่อค้าหาบเผือกต้มสวนทางมาหล่อนอยากกินเป็นกำลัง    จึงซื้อเผือกกินเสียจนหมดเงินแล้วจึงเดินกลับบ้านบิดาเห็นหล่อนเดินมาแต่ไกลจึงนึกดีใจว่าขี้ฟันของลูกสาวตนคงหมดเกลี้ยงดีแล้วแต่ที่ไหนได้พอหล่อนเผยอยิ้มเท่านั้น   ขี้ฟันกลับพอกพูนเกรอะกรังส่งกลิ่นตลบยิ่งขึ้นเพราะเผือกได้เข้าไปจับเกาะเต็มไปหมด    คหบดีผู้นั้นเกือบล้มทั้งยืน


                         เห็นแต่ไกล
                         [ คงกินอ้อยแล้ว]

                                                                       ใกล้เข้ามา
                                                               [ ขี้ฟันคงหมดแล้ว ]

       

                                               
                                               [ ชัดเลย...หึ่งเชียว ]
 คหบดีจึงถามบุตรสาวว่า “อีหนู   เอ็งไม่ได้ไปซื้ออ้อยกินหรอกหรือ?”
“เปล่าจ้ะพ่อ   ฉันนึกอยากกินเผือกต้ม เลยซื้อกินเสียอิ่ม” บุตรสาวตอบ
“ชะอีเวร    นี่เองขี้ฟันจึงมากขึ้นตั้งบุ้งกี๋”
 บุตรสาวได้ยินดังนั้นจึงทราบถึงอุบายของบิดา    ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จึงหมั่นซื้ออ้อยกินทุกๆวัน    ฟันจึงสอาดหมดจดยิ่งขึ้น

แหล่งที่มาจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น