วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

แฟชั่นชุดแดงแรงฤทธิ์ รับวันตรุษจีน

     ฟ้า...สีดำ...สีขาว...ไม่ว่าจะเสื้อผ้าสีไหนๆ ก็ดูจะไม่เหมาะกับวันตรุษจีนเท่าสีแดงอีกแล้ว เพราะชาวจีนมีความเชื่อว่า สีแดง คือสีแห่งความเป็นมงคล เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไฟ ที่คอยให้ความสว่างไสวในยามมืดมิด และความร้อนแรงของเปลวไฟก็สามารถเผาผลาญ ความชั่วร้ายหรือสิ่งที่ดีให้มอดใหม้ออกไปจากชีวิต แต่!!!จะให้ใส่ชุดเอี๊ยมจีนอย่างเดียว ก็ดูจะไม่ชิค ไม่อินเทรนด์สำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างเราๆ เอาซะเลย...วันนี้ สนุก!แคมปัส จึงนำแฟชั่นเสื้อผ้าสีแดงมาให้เพื่อนๆ ดูกันเป็นตัวอย่าง ส่วนใครจะเอาไปมิคแอนด์แมทซ์อย่างไรก็สามารถทำตามใจชอบได้เลยจ้า...^^

คลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไปคลิกชมภาพต่อไป

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

น้ำฟักทอง

            เมล็ดฟักทองมีสารชื่อ คิวเคอร์บิติน (cucurbitine) มีฤทธิ์ฆ่าพยาธิตัวตืดได้ เตรียมได้จากเมล็ดฟักทองประมาณ 60 กรัม ทุบให้แตก ผสมกับน้ำตาล นม และน้ำเติมลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แบ่งรับประทาน 3 ครั้ง ห่างกันทุก 2 ชั่วโมง หลังจากให้ยาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงให้รับประทานยาระบายน้ำมันละหุ่ง 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนเนื้อฟักทองมีแป้งและน้ำตาลประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ เส้นใย 1 เปอร์เซ็นต์ และมีวิตามินซีในปริมาณสูง นอกจากนั้นยังมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่สูงมากเช่นกัน ฟักทองเป็นพืชตระกูลมะระ จัดเป็นไม้เถาขนาดใหญ่ เลื้อยตามดิน ยาว 5-12 เมตร เถา ก้านใบ แผ่นใบ ก้านดอก กลีบเลี้ยง และผลอ่อนมีขนยาว ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว เว้าเป็นหยัก ดอกเดี่ยว ดอกตัวผู้กับตัวเมีย แยกกันแต่อยู่ในเถาเดียวกัน ผิวผลเมื่อยังอ่อนออกสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวสลับเหลือง ผิวขรุขระ เปลือกแข็ง เนื้อในสีเหลือง ไส้เส้นใยสีเหลืองนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่จำนวนมาก

แนะนำส่วนผสมของน้ำฟักทอง
ฟักทองนึ่งสุก 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 100 กรัม หรือน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น

วิธีทำ
ปอกเปลือกฟักทอง นึ่งให้สุก ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะนำไปตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น ชิมรสตามใจชอบ กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ยกลง จะได้น้ำฟักทองสีเหลือง มีรสหวานมัน เทใส่ขวด นำไปแช่เย็น หรือนำฟักทองไปนึ่งให้สุก แล้วนำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ แล้วปั่นให้ละเอียด นำไปตั้งไฟต้มจนเดือด เติมน้ำเชื่อม และเกลือลงไป ชิมรส เมื่อได้รสชาติตามชอบแล้วยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เราก็จะได้น้ำฟักทองสีเหลืองน่ารับประทาน
คุณค่าทางโภชนาการ1
1.เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
2.ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
3.ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
4.เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน
imageสรรพคุณ
1.เมล็ด ขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกาก
2.ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่น
3.น้ำมันจากเมล็ด บำรุงประสาท
4.เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ
ในทางโหราศาสตร์ได้จัดแบ่งราศีเกิดของคนเราตามการหมุนของดวงอาทิตย์ไว้ 12 ราศี แต่ละราศีจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของแต่ละคน และมีผลต่อร่างกายของคนเรา ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ บุคคลแต่ละคนจะมีธาตุหนึ่งธาตุใดในร่างกายเด่นชัดออกมา และจะแสดงออกเป็นบุคลิก นิสิยใจคอ อารมณ์ รวมทั้งพฤติกรรมการเลือกบริโภคอาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลได้
ธาตุดิน ได้แก่ผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ราศีกันย์ และราศีธนู มักจะชอบดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีรสฝาด รสหวาน รสมัน และรสเค็ม
  • รสฝาด เช่น น้ำฝรั่ง น้ำมะตูม น้ำกระท้อน น้ำมะกอก น้ำมะขามป้อม น้ำลูกหว้า
  • รสหวาน เช่น น้ำแตงโม น้ำมะละกอ น้ำกล้วยหอม น้ำขนุน น้ำเงาะ น้ำน้อยหน่า
  • น้ำละมุดฝรั่ง น้ำลำใย น้ำอ้อย
  • รสมัน เช่น น้ำกระจับ น้ำข้าวโพด น้ำฟักทอง น้ำแห้ว
  • รสเค็ม เช่น เกลือ

วิธีทำ
ปอกเปลือกฟักทอง นึ่งให้สุก ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะนำไปตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น ชิมรสตามใจชอบ กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ยกลง จะได้น้ำฟักทองสีเหลือง มีรสหวานมัน เทใส่ขวด นำไปแช่เย็น หรือนำฟักทองไปนึ่งให้สุก แล้วนำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ แล้วปั่นให้ละเอียด นำไปตั้งไฟต้มจนเดือด เติมน้ำเชื่อม และเกลือลงไป ชิมรส เมื่อได้รสชาติตามชอบแล้วยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เราก็จะได้น้ำฟักทองสีเหลืองน่ารับประทาน
คุณค่าทางโภชนาการ
1.เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
2.ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
3.ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
4.เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน
สรรพคุณ
1.เมล็ด ขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกา
2.ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่น
3.น้ำมันจากเมล็ด บำรุงประสาท
4.เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ
ในทางโหราศาสตร์ได้จัดแบ่งราศีเกิดของคนเราตามการหมุนของดวงอาทิตย์ไว้ 12 ราศี แต่ละราศีจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของแต่ละคน และมีผลต่อร่างกายของคนเรา ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ บุคคลแต่ละคนจะมีธาตุหนึ่งธาตุใดในร่างกายเด่นชัดออกมา และจะแสดงออกเป็นบุคลิก นิสิยใจคอ อารมณ์ รวมทั้งพฤติกรรมการเลือกบริโภคอาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลได้
ธาตุดิน ได้แก่ผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ราศีกันย์ และราศีธนู มักจะชอบดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีรสฝาด รสหวาน รสมัน และรสเค็ม
1.รสฝาด เช่น น้ำฝรั่ง น้ำมะตูม น้ำกระท้อน น้ำมะกอก น้ำมะขามป้อม น้ำลูกหว้า
2.รสหวาน เช่น น้ำแตงโม น้ำมะละกอ น้ำกล้วยหอม น้ำขนุน น้ำเงาะ น้ำน้อยหน่า
3.น้ำละมุดฝรั่ง น้ำลำใย น้ำอ้อย
4.รสมัน เช่น น้ำกระจับ น้ำข้าวโพด น้ำฟักทอง น้ำแห้ว
5.รสเค็ม เช่น เกลือ


แหล่งที่มาจาก

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

ทายใจจากยีนส์ตัวโปรด

หมีแยกเขี้ยว
ยีนส์ธรรมดาทั่วไป คุณ เป็นสาวที่มีความมั่นอกมั่นใจในตนเอง รักความยุติธรรม เป็นเพื่อนที่ดีจริงจังกับชีวิต มีเป้าหมายเงียบ ๆ อยู่ในใจ ไม่ชอบเป็นจุดเด่นให้คนมอง รักครอบครัวและชอบการแสวงหาความรู้
ยีนส์ขาเดป
คุณ เป็นคนมีเสน่ห์ มีความคิดสร้างสรรค์ อยากรู้อยากลองกับสิ่งแปลกใหม่ไม่ชอบกฎข้อบังคับ มีอารมณ์ศิลปิน ภายนอกดูเหมือนเชื่อมั่นในตนเอง แต่ลึก ๆเป็นคนขลาดกลัว

ยีนส์ขาบานย้อนยุค
คุณ เป็นคนเฉลียวฉลาด มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่ชอบเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ใครรู้ พึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ชอบโหราศาสตร์เป็นพิเศษ แต่ไม่ชอบเข้ากับคนแปลกหน้ายีนส์ทรงหลวม
คุณ เป็นคนที่ชอบความเรียบง่าย ไม่หวือหวา ชอบอิสระเสรี ไม่ชอบให้ใครมาบังคับเป็นคนที่รักและมีความสุขกับธรรมชาติ ชอบความตื่นเต้น มีจิตใจอ่อนโยนเผื่อแผ่คนอื่น มีความคิดสร้างสรรค์งานศิลปะยีนส์แบรนด์เนม
คุณ เป็นคนมีเสน่ห์ เปิดเผย ฉลาด และใจกว้าง มีความคล่องตัวสูง เป็นตัวของตัวเองชอบความสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนฝูง มีความทะเยอทะยานแต่เป็นคนเบื่อง่าย จิตใจไม่มั่นคงนัก
หมีกระดิกหู

แหล่งที่มาจาก

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

ความรักของคนราศีสิงห็

ความโรแมนติกแบบราศีสิงห์                                                                                                                     ชาวราศีสิงห์จะเป็นคนที่ตัดสินใจเร็ว คิดปุ๊บก็ลงมือปั๊บอย่างไม่ลังเล เพราะเขามั่นใจว่าเขาพร้อมและดีกว่าคนอื่น ความรักของเขาคือการซื่อสัตย์ เต็มไปด้วยความชื่นชม ให้เกียรติและการดูแลเอาใจใส่ แต่ชาวสิงห์อาจจะดูเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเองสูงไปบ้าง กล้าแสดงออก และร่าเริงแจ่มใส คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ไม่ค่อยน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่

ความรักของราศีสิงห์                                                                                                                                                ชาวราศีสิงห์เป็นคนกล้าหาญ กล้าทำ กล้ารับ แต่ก็ไม่ใช่คนเสียสละมากนัก เขาจะทำทุกอย่างตามความต้องการและความรู้สึกของตัวเอง และทุกคนก็จะต้องทำตามสิ่งที่เขาคิดด้วย แต่ในทางกลับกัน เขาจะไม่ทำตามคำขอของใครทั้งนั้น ความสัมพันธ์กับคนรักของเขาจะเป็นแบบที่ต้องเชื่อฟังและทำตามความคิดของเขา มากกว่าจะมานั่งปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ดังนั้น คู่รักของชาวสิงห์ควรที่จะเข้าใจและยอมตามใจเขาให้ได้ ถ้าไม่อยากจะขัดใจจนทะเลาะเบาะแว้งกัน จนอาจถึงขั้นเลิกรากันไปเลยก็เป็นได้

ความสัมพันธ์แบบชาวราศีสิงห์                                                                                                          ด้วยความมั่นใจในตนเอง และกล้าแสดงออกทำให้ชาวสิงห์เป็นผู้ที่มั่นใจและไม่กลัวในเรื่องความรัก เขาชอบที่จะเป็นฝ่ายเดินเข้าหาความรักมากกว่าจะรอให้ความรักมาหา แต่ถึงแม้เขาจะเดินหาความรักเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวสิงห์จะไม่พิถีพิถันในการเลือกคนรัก เขาใช้การพิจารณาและความรู้สึกในการเลือกคนรักนานพอดู เขาจะค่อยๆดูเพื่อให้แน่ใจว่า ใช่คนนี้แหละ ที่จะเข้ากับเขาได้ดีที่สุด

SEX กับราศีสิงห์                                                                                                                                            ราศีสิงห์นั้นตรงกับธาตุไฟ จึงมีอารมณ์ความรู้สึกที่ร้อนแรง และมีพละกำลังเหลือเฟือ เขาจึงจะแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกต่อคนรักเสมอๆ แต่การถ่ายทอดความรู้สึกหรืออารมณ์ต่างๆ ของชาวสิงห์นั้น จะเป็นแบบสวยงาม ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่จะเร่าร้อนมากมายเหมือนความรักของหนุ่มสาวทั่วไป เพราะชาวสิงห์จะมีมาด มีฟอร์มของความเป็นผู้นำอยู่ ดังนั้นเวลาจะทำอะไรจึงมีมาดนี้อยู่ด้วย เห็นอย่างนี้ก็เหอะชาวสิงห์เป็นคนที่มั่นคงในรัก ไม่เชื่ออะไรง่ายๆและจริงใจต่อคุณเสมอ แล้วอะไรหล่ะที่ชาวราศีสิงห์ต้องการ สิ่งที่ชาวสิงห์ต้องการก็คือ การได้รับการยอมรับนับถือ คำชื่นชม ซึ่งจะทำให้เขามั่นใจในตัวเองมากและเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อคนที่เขารักอย่างดีด้วยความเต็มใจ ชาวสิงห์ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด ดังนั้นคนรอบตัวของเขาจะต้องเข้าใจในความมุ่งมั่นของเขาและจงอย่ากวนใจเขาในยามที่เขากำลังตั้งใจที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ และสำหรับคนรักของชาวสิงห์ จงจำไว้ว่าเขาจะต้องเป็นที่หนึ่งในใจคุณเสมอ และอย่านอกใจหรือทรยศเป็นอันขาด

แหล่งข้อมูลจาก

อาหารเพื่อสุขภาพ

         อาหารหลัก 5 หมู่ หากกินครบถ้วนจะดีต่อสุขภาพและร่างกาย ถือเป็นยารักษาโรคขนานเอก แต่ก็ยังมีอาหาร จำพวกผัก ผลไม้ ที่ควรใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน...

* ถั่วเหลือง
 เมนูนี้อาจฟังดูไม่ค่อยน่าอร่อยนัก แต่คุณก็ไม่อาจปฎิเสธได้ถึงประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายของมัน ถั่วเหลืองอุดมด้วย ไอโวฟลาโวนส์ ที่ช่วยปกป้องต่อมลูกหมากของผู้ชาย หากมี ไอโวฟลาโวนส์ในเลือดระดับที่เหมาะสม จะลดโอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากลงได้อย่างมาก การบริโภคโปรตีนจากถั่วยังเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในการช่วยลดไขมันไม่ดีในร่างกายอีกด้วย

* ผักสีส้มและสีแดง
 การกินผักสีส้มและสีแดง (เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ มะเขือเทศ ฯลฯ) ในปริมาณที่มากพอ ก็มีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ทำให้เซลล์ผิวหนังสุขภาพดี และอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม และเบต้าแคโรทีน ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการต่อมลูกหมากโตด้วย แน่นอนการเน้นกินผักสีส้มและสีแดงไม่ได้หมายความว่าควรละเลยผักสีเขียวทั้งหลาย เพือ่ให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนจริงๆ ควรทานผักผลไม้เป็นประจำทุกวัน

* เชอร์รี่และเบอร์รี่
 หากอยากอร่อย ลองเลือกผลไม้รสอร่อยที่ดีต่อสุขภาพอย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และเชอร์รี่ เพราะมีแอนตี้ออกซิแดนต์และฟลาโวนอยด์ในระดับสูง ซึ่งช่วยการทำงานของสมองให้เฉียบคม

* ไขมันปลา กรดไขมันโอเมก้า 3
 สำคัญอย่างมากในการทำให้ร่างกายคุณทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ ปลาที่อุดมด้วยไขมัน เช่น แซลมอน ทูน่า แม็กเคเรล และซาร์ดีน มีคุณสมบัติสูงในการต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยในการลดอาการเจ็บปวดต่างๆ ของร่างกาย (รวมทั้งข้อต่อ) ผ่อนคลายโรคไขข้ออักเสบ และลดระดับไขมันในเลือด ปลาที่มีไขมันสูงยังมีวิตามินดี ที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าช่วยป้องกันมะเร็ง เบาหวานประเภทสองโรคกระดูก และความดันโลหิตสูง โดยควรกินปลาที่มีไขมันสูงอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง

แหล่งที่มาจาก

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ผักผลไม้ 7 ชนิด ที่ผู้หญิงควรรับประทาน

       ถึงแม้จะมีสาวๆ หลายคนไม่ค่อยจะพิศมัยในการกินผักผลไม้เท่าไหร่นัก แต่ก็เห็นพยายามหาวิธีที่จะทานเข้าไป ด้วยความหวังที่อยากให้ผักผลไม้เหล่านั้นสร้างประโยชน์ให้กับร่างกาย ผักและผลไม้แต่ละชนิดนั้นก็มีวิตามินและแร่ธาตุที่พิเศษแตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีเรื่องราวของผักผลไม้ 7 ชนิด ที่มีผลโดยตรง ต่อสุขภาพของ “ผู้หญิง” มาฝาก
1. ลูกพรุน ต้องบอกเลยว่าเป็นแหล่งโปแทสเซียม เหล็ก และไฟเบอร์ชั้นดี ที่สำคัญลูกพรุนยังช่วยให้สาวๆ มีเลือดฝาดดูเป็นสาวสดใส ยิ่งโดยเฉพาะสาวๆ ที่มีอายุ 25 ขึ้นไปร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันจะเริ่มสะสมตามที่ต่างๆ ผิวหน้าก็อาจจะหมองคล้ำลง ธาตุเหล็กที่มีในลูกพรุนจะช่วยดูแลเรื่องนี้ควบคู่กับภาวะที่สตรีต้องสูญ เสียเลือดและธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนอีกด้วย

  2. ถั่ว เพียบพร้อมไปด้วยโปรตีน เหล็กและวิตามินบีด้วยนะคะ มีนักวิทยาศาสตร์เค้าค้นพบว่าเมื่อเรารับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ ละลายน้ำ (ซึ่งมีมากในถั่วค่ะ) ไฟเบอร์จะเคลือบกระเพาะ ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและนาน ความอยากอาหารจะลดลง แถมนอกจากไฟเบอร์แล้วในถั่วยังมีสารอาหารชนิดอื่นๆ อีกด้วย นี่ล่ะค่ะจึงทำให้ผู้หญิงอย่างเราหุ่นดีโดยไม่ขาดสารอาหาร
 3. บรอคโคลี มีซีลีเนียมมากซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว หนัง ทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่มมีน้ำมีนวลแถมยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้
4. กล้วย  โดยเฉพาะในกล้วยไข่จะมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสาวๆ อายุ 22 ปีไปแล้ว ร่างกายจะเริ่มหยุดการเติบโต ความเสื่อมของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนค่ะ และนั่นก็จะทำให้เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น ที่แน่นอนที่สุดความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะลดลงเรื่อยๆ ความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระก็ลดลง นี่ล่ะค่ะ สาวๆ จึงต้องรับประทานกล้วยให้เยอะๆ
 5. ฝรั่ง รู้รึเปล่าคะว่า ฝรั่ง 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีนี้มีบทบาทในการสร้าง “คอลลาเจน” ที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงยืดหยุ่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย
 
6. แอปเปิ้ล มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ “เพคติน” ซึ่งจะช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนักและลดคอเลสเตอรอล ถ้าสาวๆ หิวเมื่อไหร่ล่ะก็ให้นึกถึงแอปเปิ้ลไว้ก่อนเลย

 
7. ส้ม เป็นแหล่งวิตามินเกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติ น้องๆ รู้มั้ยคะว่าการรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกทางนึงนะคะ เพราะจะทำให้เราอิ่มท้องเร็ว สาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักต้องส้มเลย



แหล่งข้อมูลจาก
http://variety.mcot.net/inside.php?docid=2889
 

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานพื้นบ้าน ใช้อ้อยต่างแปลง

กาลนานมาแล้ว    ในสมัยที่โลกยังไม่มีแปรงสีฟันใช้นั้น    มีคหบดีผู้หนึ่งมีความรักใคร่เอ็นดูบุตรสาวของตนมาก    เพราะบุตรสาวของเขานั้นเป็นหญิงที่งามทั้งใบหน้า    และกริยาวันหนึ่งเห็นว่าบุตรสาวของตนชักจะมีขี้ฟันมากเกรอะกรังอยู่ไรฟันเต็มไปหมดเวลาพูดจาหรือเข้าใกล้ก็มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง  คหบดีผู้นั้นคิดว่าถ้าจะปล่อยให้สภาพการณ์เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่   นอกจากพวกหนุ่มๆที่เข้ามาติดตอมจะเอือมระอาแล้ว   ย่อมเป็นที่รังเกียจของสังคมด้วย  แต่ก็ไม่กล้าบอกบุตรสาวตรงๆเพราะเกรงบุตรสาวจะอับอายจึงได้หาอุบายโดยบอกให้บุตรสาวไปหาอ้อยมากินให้มากๆ    เพื่อผิวพรรณจะได้สวยงามยิ่งขึ้น    ซึ่งจริงๆแล้วอ้อยเหล่านั้นจะได้ช่วยแปรง    และแทะขี้ฟันให้หลุดไปได้
         เขาจึงได้ให้เงินลูกสาวเป็นจำนวนมาก    เพื่อให้ไปหาซื้ออ้อยที่สวนข้างๆบ้านมาไว้กินแต่ขณะที่บุตรสาวเดินไประหว่างทางยังไม่ทันถึงสวนอ้อย    เห็นพ่อค้าหาบเผือกต้มสวนทางมาหล่อนอยากกินเป็นกำลัง    จึงซื้อเผือกกินเสียจนหมดเงินแล้วจึงเดินกลับบ้านบิดาเห็นหล่อนเดินมาแต่ไกลจึงนึกดีใจว่าขี้ฟันของลูกสาวตนคงหมดเกลี้ยงดีแล้วแต่ที่ไหนได้พอหล่อนเผยอยิ้มเท่านั้น   ขี้ฟันกลับพอกพูนเกรอะกรังส่งกลิ่นตลบยิ่งขึ้นเพราะเผือกได้เข้าไปจับเกาะเต็มไปหมด    คหบดีผู้นั้นเกือบล้มทั้งยืน


                         เห็นแต่ไกล
                         [ คงกินอ้อยแล้ว]

                                                                       ใกล้เข้ามา
                                                               [ ขี้ฟันคงหมดแล้ว ]

       

                                               
                                               [ ชัดเลย...หึ่งเชียว ]
 คหบดีจึงถามบุตรสาวว่า “อีหนู   เอ็งไม่ได้ไปซื้ออ้อยกินหรอกหรือ?”
“เปล่าจ้ะพ่อ   ฉันนึกอยากกินเผือกต้ม เลยซื้อกินเสียอิ่ม” บุตรสาวตอบ
“ชะอีเวร    นี่เองขี้ฟันจึงมากขึ้นตั้งบุ้งกี๋”
 บุตรสาวได้ยินดังนั้นจึงทราบถึงอุบายของบิดา    ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จึงหมั่นซื้ออ้อยกินทุกๆวัน    ฟันจึงสอาดหมดจดยิ่งขึ้น

แหล่งที่มาจาก

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

กรุ๊ปเลือดบอกนิสัย

กรุ๊ปเลือด A
นิสัยพื้นฐานของคนกรุ๊ปเลือด A คนกรุ๊ป A เป็นคนที่ค่อนข้างจะรอบคอบุขุมและไว้ตัวนิดๆ แต่ไม่ถึงกับหยิ่ง เขาค่อนข้างจะโดดเด่นหรือเป็นหนึ่งอยู่เสมอ จนบางครั้งดูเป็นคนที่จริงจังเกินไป พวกเขาจะทำอะไรมักวางแผนการหรือล็อกโปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ ไม่ชอบจับแพะชนแกะถึงจะแก้เฉพาะหน้าได้เก่งพอตัวก็เถอะ
กรุ๊ปเลือด B
นิสัยพื้นฐานของคนกรุ๊ปเลือด B เขาเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนใครหรือไม่ชอบทำอะไรตามคนอื่นต้องให้ดี กว่าหรือยอดเยี่ยมอยู่เสมอ เพราะมีหัวคิดสร้างสรรค์หรือคิดดัดแปลงพลิกแพลงได้เก่ง การที่ไม่ชอบเครียดนักกับสิ่งแวดล้อมทั่วไป ทำให้ดูเหมือนเป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริงแจ่มใส อยู่เสมอ บางทีก็อยากเป็นอิสระไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเหมือนกัน คงเพราะความเบื่อหรือเซ็งอะไรได้ง่ายๆ  
 
กรุ๊ปเลือด AB
นิสัยพื้นฐานของคนกรุ๊ปเลือด AB ชาวกรุ๊ปเลือดนี้สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นซ้ายหรือขวาเพราะไม่ค่อยจะเคร่งครัดมาก เรื่องเท่าไหร่นักและมีความเป็นมิตรกับคนทั่วไป ยากที่จะหาคนที่เป็นนักเลงโตหรือห้าวจนเกินตัวนอกจากจะถูกแหย่ ก่อนนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความยุติธรรมอยู่ในตัวพอสมควร จึงได้รับความไว้วางใจแต่การคิดช่วยเหลือผู้อื่นบางทีก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากไม่เป็นคนที่เด็ดขาด บางทีก็เข้าเนื้อตัวเองด้วย
 

กรุ๊ปเลือด O
นิสัยพื้นฐานของคนกรุ๊ปเลือด O คนกรุ๊ปเลือด O ไม่กลัวอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อะไรก็ตามโดยเฉพาะด้านความรักล่ะก็เป็นได้สู้หัวชนฝา เหนื่อยหน่อยนะถ้าคนอื่นคิดจะสู้คนเลือดกรุ๊ปนี้ พวกเขาเป็นคนที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น กล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าถูกต้อง แต่บางทีก็ดูเหมือนจะรั้นหรือเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปสักนิด หากรู้จักยั้งใจฟังคนอื่นบ้างก็จะดี

  แหล่งที่มาจาก
http://www.baanmaha.com/community/thread21931.html 




วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานอีสป เรื่อง หมีกับคนเดินทาง

อ้วน ผอมเพื่อนคู่ซี้นักเดินทาง กำลังเดินคู่กันมาด้วยความสามัคคีไปตามทางในป่าและพูดคุยกันไปอย่าง สนุกสนาน..แล้วอยู่ ๆในทันทีนั้นก็มีหมีป่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากพุ่มไม้ตรงด้านหลังของ ทั้ง สองโดยไม่ทันรู้ตัว...เจ้าหมีป่าตัวใหญ่หมายจะทำร้ายนักเดินทางทั้งสองอย่าง จงใจนั่นเอง..." โฮก..ก้าวว์ " มันร้องคำรามแล้วก้าวย่างสามขุมเข้ามา.." จ๊าก..หมี ๆๆ ช่วยด้วย " อ้วนผอมนักเดินทางทั้งสองพอเห็น และรู้ตัวเข้าเท่านั้นก็ร้องลั่นและต่างก็พากันวิ่งหนีโกยอ้าวออกไปข้างหน้า อย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว... ผอมนักเดินทางนั้นตัวเบาเมื่อวิ่งไปและเหลือบไปเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง เข้าที่ข้างทางก็ปีนหนีขึ้นไปบน ต้นไม้ต้นนั้นด้วยความเร็ว...ส่วนอ้วนนักเดินทางเพื่อนคู่ซี้นั้นตัวอ้วนและ หนักเลยไม่สามารถที่จะปีน ขึ้นไปได้.. อ้วน นั้นด้วยความกลัวอย่างสุด ๆเหมือนกันจึงตะโกนบอกอ้อนวอนผอมเพี่อนคู่ซี้ให้ช่วยด้วยว่า " ว้า..เรา ปีนขึ้นไปไม่ได้..ช่วยดึงมือเราหน่อยสิ ช่วยให้เราหนีขึ้นไปบนนั้นด้วยคนสิเพื่อน..ช่วยดึงมือเราหน่อย " ผอมเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตอบปฏิเสธให้เป็นพันละวันว่า " ไม่ได้..ไม่เอา ตัวอ้วน ๆหนัก ๆอย่างเจ้า..ถ้าข้าขืน ช่วยดึงให้เดี๋ยวข้าก็พลัดตกลงไปอยู่ข้างล่างด้วยน่ะสิ...ข้ากลัวโดนหมีทำ ร้ายและกินเข้าไปน่ะสิวะ ..ไม่เอา ด้วยหรอก..ข้ายังไม่อยากตาย " อ้วนให้เป็นเสียใจกับความเห็นแก่ตัวคิดเอาตัวรอดแต่คนเดียวของผอม เพื่อนคู่ซี้คนนี้มากแต่เจ้าหมีป่านั้นมันกำลังตามเข้ามาจนเกือบจะถึงตัว อยู่รอมร่อนี่แล้ว อ้วนจึงด้วยความ กลัวและไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีเลยอยู่ ๆก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงนั้นและทำเป็นสลบนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้วนั่นเอง... 
อ้วน นั้นเคยได้ยินคนแก่ ๆผู้มีประสบการณ์เคยบอกว่า " เมื่อเจอหมีและจนตัวหนีไม่ทันละก็ ให้แกล้งลงนอน ทำเป็นตายนะเพราะหมีมันมีสัญชาติญาณอยู่ว่ามันจะไม่กินของที่ไม่มีชิวิตน่ะ จำคำนี้เอาไว้ก็แล้วกันถ้ารักจะ เดินทางน่ะ เชื่อเถอะ.. "อ้วนนอนนึกถึงคำสอนอันนี้ขึ้นมาได้เลยนอนนิ่ง ๆแกล้งทำเป็นตายไม่กระดุกกระดิก เลยทีเดียว เจ้าหมีป่าเมื่อตามมาทันและเห็นว่าเยื่อของมันนั้นสงสัยจะตายไปแล้วก็เข้ามา ดมไปตามหน้าตาม หูของเหยื่อเพื่อให้แน่ใจว่าตายแน่หรือยัง มันดมสำรวจอยู่สักพักจนมันแน่ใจว่าคงตายไปแล้วเพราะไม่เห็น กระดุกกระดิกตรงไหนเลยมันเลยถอยและเดินจากตรงนั้นไปอย่างหมดหวัง...ผอมที่ อยู่บนต้นไม้เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นและหมีก็จากไปแล้วจึงค่อย ๆลงมาจากต้นไม้และรีบเข้าไปเขย่าอ้วนให้ลุกขึ้นและพูดว่า " เฮ้อ..รอดไปที เจ้าหมีมันหนีไปแล้วหละ ทำไมมันถึงหนีไปก็ไม่รู้..นี่อ้วนนายคิดว่ายังไงหือ? ว่าทำไมมัน ถึงหนีไปน่ะ " "แล้ว เมื่อกี่นี้..เราเห็นหมีมันทำท่าทางเหมือนเข้าไปกระซิบอะไรที่ข้างหูนาย หรือ?..มันกระซิบบอกอะไรนาย ล่ะ ?" 
อ้วนจึงลุกขึ้นมาแล้วพูดกับผอมว่า " เออ..หมีมันกระซิบบอกกับเราว่า..เพื่อนที่ถึงเวลาที่กำลังเดือด ร้อนและมีอันตรายนั้นตัวเองหนีรอดได้คนเดียวก็เป็นใช้ได้นั้นน่ะ..ไม่ใช่ เพื่อนจะเอามาเป็นเพื่อนผู้ร่วมเดิน ทางด้วยนั้นไม่ได้หรอก..แล้วมันยังบอกอีกด้วยว่าเพื่อนผู้ร่วมเดินทางผู้ที่ เวลาที่กำลังเดือดร้อนและได้อัน ตรายแล้วช่วยกันหาทางให้พ้นอันตรายด้วยกันนั้นคือเพื่อนแท้ด้วยหละ นายว่าจริงอย่างที่มันกระซิบ บอกหรือปล่าวล่ะ แต่เราน่ะเชื่อมันแหละ..ว่าจริงอย่างที่มันกระซิบบอกจริง ๆ " พูดจบแล้วอ้วนก็ออก เดินจากตรงนั้นและจากผอมไปในทันทีปล่อยให้ผอมยืนงงอยู่อย่างนั้นโดยไม่ทัน ได้คิดหาคำตอบแก้ตัว ได้แต่อย่างใด...
 

        แหล่งที่มาจาก
http://entertain.tidtam.com/data/12/0062-1.html

 

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานอีสป เรื่อง สิงโตเบาปัญญา

      ในเช้าของวันที่มีอากาศแจ่มใสของวันหนึ่ง มีสิงโตตัวหนึ่งเดินทอดน่องมายัง ลำธารน้ำเพื่อหาน้ำดื่ม และ ณ ที่ลำธารแห่งนั้น...มันได้พบกับสาวน้อยหน้าตา สวยงามมากนางหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกสาวของคนตัดฟืนเข้า สาวน้อยนางนั้นกำลัง นั่งซักผ้าอยู่ที่ชายน้ำอย่างเพลิดเพลิน เจ้าสิงโตทันทีที่มันได้เห็นสาวน้อยนางนั้น เข้ามันก็เกิดนึกรักนางขึ้นมาทันทีทันใดเลยทีเดียว " โอ๊ด..โต๊ด...โต๋...ทำไมสวยงาม น่ารักอย่างนี้นะ " มันรำพึงและคิดที่จะได้นางมาไว้เป็นภรรยาของมัน มันจึงจ้องมอง ดูนางอย่างไม่ยอมวางตาเลยทีเดียว...
เมื่อสาวน้อยนางนั้นเหลือบไปเห็นสิงโตซึ่งกำลังจ้องมองนางอยู่อย่างไม่วางตาอย่างนั้นเข้า นางจึงตกใจกลัว นางรีบวิ่งหนีกลับเข้าไปในบ้านทันที ส่วนเจ้าสิงโตนั้นความที่มัน นึกรักสาวน้อยนางนั้นขึ้นมาจริง ๆ มันจึงวิ่งตามเธอไปติด ๆ...สาวน้อยเมื่อเข้าไปในบ้านแล้ว นางจึงรีบบอกกับพ่อของนางอย่างร้อนรนว่า " พ่อจ๋า มีสิงโตตัวหนึ่งวิ่งตามลูกมา มันมานั่งอยู่ ตรงหน้าบ้านเรานี่แล้วแหละพ่อ "

คนตัดฟืนผู้พ่อจึงออกไปเปิดประตูดู เจ้าสิงโตรีบพูดขึ้นโดยเร็วปรื๋อกับคนตัดฟืนว่า " ลูกสาว ของท่านช่างสวยงามเสียจริง ข้าเห็นแล้วก็นึกรักอยากที่จะได้เธอมาเป็นภรรยา " สิงโตบอก หญิงสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปอีก นางยืนแอบและร้องให้ออกมาด้วยความกลัว แต่คนตัดฟืนผู้พ่อทำเป็นใจกล้าและพูดกับสิงโตว่า " ถ้าอยากได้ลูกสาวข้าเราไปเป็นภรรยาแล้ว ละก็...ก่อนอื่นใดเจ้าต้องไปถอนเคี้ยวและตัดอุ้งเล็บที่แหลมคมออกจากอุ้งมือและอุ้งเท้าของเจ้าออกให้ หมดเสียก่อน เมื่อนั้นแหละลูกสาวของข้าจึงจะยอมไปเป็นภรรยาของเจ้า "

เจ้าสิงโตเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ถึงบางอ้อเลยทีเดียว " อ้อ นี่คงเป็นเพราะกลัวเขี้ยวและเล็บที่แหลมคม ของข้าน่ะน้า..จึงวิ่งหนี ฮ่า ๆๆๆ"มันจึงด้วยความดีใจรีบไปทำตามคำบอกของคนตัดฟืนทันที มันวิ่งไปขอให้หมอฟันช่วยถอนเคี้ยวออกจากปากของมันจนหมดทุกซี่ แล้วจึงไปหาช่างตีเหล็ก ขอให้ช่วยตัดอุ้งเล็บที่แหลมคมของมันออกทิ้งจนหมดสิ้น...จากนั้นมันก็กลับมาหาคนตัดฟืนเพื่อ ให้ดูว่ามันไม่มีเขี้ยวและกรงเล็บที่แหลมคมเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว...เมื่อคนตัดฟืนเห็นดังนั้นแล้ว จึงกล่าวกับสิงโตว่า " ตอนนี้เจ้าก็เป็นสิงโตที่ไม่น่ากลัวอะไรอีกต่อไปแล้วหละ " พูดจบเขาก็หันไปคว้าไม้ ท่อนใหญ่มาไล่ตีสิงโตที่ไร้เคี้ยวเล็บตัวนั้นจนสะบักสะบอม..งอม...ไปหมดทันที สิงโตทำอะไรและต่อสู้ป้อง กันตัวไม่ได้จึงวิ่งตะเลิดหนีไปจากตรงนั้นทันที...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
       ผู้ที่ไม่รู้จักระวังตัว ไม่ประมาณตนเองย่อมได้รับผลอันเลวร้ายแก่ตน

แหล่งที่มา